อาหารเสริมมี 4 ประเภทแบ่งตามลักษณะของรูปลักษณ์ของสารอาหาร
1.สารอาหารในรูปแบบเม็ด
แบบเม็ดนั้นเป็นรูปแบบพื้นฐานของอาหารเสริม มีประวัติยาวนานที่สุดแบบเม็ดนั้นเล็ก และสะดวกในการพกพา ติดตัวไปด้วย ง่ายในการขนส่งซึ่งนั้นเป็นข้อดีของสารอาหารแบบเม็ด สารแบบเม็ดนั้นผลิตโดยการผสมส่วนผสมชนิดผงกับสารเคมีที่ใช้เติมเต็มเม็ดแม่พิม, สารเครือบผิวเม็ด รวมถึงสารเคมีอนุภาคเล็กๆที่ทำให้ไม่ติดกับแม่พิมพ์สารอาหารแบบเม็ดนั้นมีหลากหลายขนาดและรูปร่าง เพื่อให้แยกแยะชนิดกันได้ปกติแล้วเม็ดที่มีขนาดใหญ่ลักษณะคล้ายรูปร่างคล้ายสี่เหลี่ยมผืนผ้ามักจะเป็นวิตามิน หรือสมุนไพรที่มีปริมาณสารออกฤทธ์สูง กระบวนการ สำคัญในการผลิตคือ การอัดเม็ดโดยใช้แรงกดส่วนผสมที่เป็นผงด้วยแรงกดประมาณ 10,000-20,000 psi ด้วยแรงกดมหาศารนี้ บวกกับอุณหภูมิที่สูงขึ้น ทำให้ส่วนผสมทั้งหมดสามารถรวมกันเป็นเม็ดแข็ง ไม่แตกหักง่ายๆ สารเคมีที่ใช้เครือบนั้น ปกติจะมีส่วนผสมของสีย้อมสังเคราห์ และการเคลือบนี้ยังช่วยป้องกันการแตกหัก รวมถึงทำให้กลืนง่ายขึ้น นอกจากการใช้สารเคมีเติมแต่งมากมายในกระบวนการผลิตแล้วสารอาหารแบบเม็ด ยังมีข้อเสียอื่นๆอีก บางอย่างในเรื่องการกลืนสารอาหารแบบเม็ดเข้าปาก เป็นปกติสำหรับ เด็ก วัยรุ่น และผู้สูงอายุ ที่จะมีปัญหากับการกลืน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านกายภาพ หรือทางด้านจิตใจ ประมาณ 40% ของประชากรโลกจะมีปัญหานี้
สารอาหารแบบเม็ดนั้น ถูกออกแบบมาให้แตกตัวออก หลังจากถูกกลืนไปแล้วโดยเม็ดยาจะแตกออก ภายใน 30-45 นาทีด้วยกรดในกระเพราะอาหารอาจโชคไม่ดีที่บางครั้งกระเพาะก็ไม่อยู่ในสภาวะย่อยสารอาหารแบบเม็ดได้ดีในบางราย หรือบางเวลา สารออกฤทธิ์จะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดอาจจะใช้เวลาถึง 2-3 ชั่วโมง หลังการกลืน
2.สารอาหารแบบผง
สารอาหารแบบผงนั้น จะเป็นผงแห้งๆออกแบบมาให้ผสมกับน้ำ, นม, น้ำผลไม้, หรือของเหลวอื่นๆ สารอาหารแบบผงมีอายุการเก็บที่นานเนื่องจากไม่มีน้ำ หรือความชื้น และยังมีน้ำหนักเบาง่ายในการพกพา แต่ในที่ที่มีความชื้นสูง เช่น ในประเทศไทยสารอาหารแบบผง จะดูดเอาความชื้นจากในอากาศได้อย่างเร็วทำให้เกาะตัวเป็นก้อนและระยะเวลา ในการเก็บรักษาสั้นลง ข้อเสียที่สำคัญของสารอาหารแบบผงคือ จำเป็นต้องมีของเหลวที่ใช้ผสมไม่ว่าจะเป็น น้ำ, นม,น้ำผลไม้ ซึ่งแบบผงไม่ได้ผลิตขึ้น เพื่อทานเห้งๆ โดยไม่ผสมน้ำซึ่งจะเป็นอันตราย ยิ่งกว่านั้น ถ้าสูดเอาผงที่ฟุ้งกระจายระหว่างที่ตักสารอาหาร หรือระหว่างที่ผสม นอกจากนี้ยังต้องการอุปกรณ์ ในการตวงและผสมรวมถึงคราบสกปรกที่จะเกิดขึ้นถ้าทำหก
3.สารอาหารแบบน้ำ
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในรูปแบบน้ำนั้น ได้ถูกนำมาใช้ อย่างกว้างขวางในวงการธุรกิจหลายเจ้า ได้นำเข้าผลไม้จากต่างประเทศบางชนิดมาบด และผสมน้ำ หรือน้ำผลไม้ ซึ่งส่วนใหญ่ จะบรรจุอยู่ในขวดแก้ว ขนาด 1 ลิตร สารอาหารในรูปแบบของเหลวนั้นดี ง่ายในการกลืน และดูดซึมเข้าสู้กระแสเลือดได้ดีแต่โชคดีที่สารอาหารแบบน้ำนั้น ก็มีข้อเสียหลายประการสำหรับเครื่องดื่ม ที่ผลิตจากผลไม้ทั้งลูกนั้น ไม่ได้เป็นเนื้อเดียวกัน โดยจะมีส่วนผสมของเปลือก เมล็ด และเนื้อผลไม้ ที่ถูกปั่นแล้วซึ่งสิ่งเหล่านั้น ไม่ละลายน้ำ เพียงแค่ 30 นาทีหลังจากบรรจุขวดด้านล่างของขวดจะเต็มไปด้วยตะกอน ที่เป็นส่วนเมล็ด เปลือก และเนื้อผลไม้ โดยปริมาณหรือตะกอนในแต่ละขวดก็ไม่ค่อยเท่ากัน ซึ่งตะกอนเหล่านั้นทำให้สารอาหารแบบน้ำ จำเป็นต้องเขย่า ให้เข้ากันดีก่อนดื่ม ซึ่งคำเตือนเหล่านี้ จะปรากฏให้เห็นบนฉลากถ้าไม่ได้เขย่าให้เข้ากันก่อนดื่ม สิ่งที่ได้ก็คือสารอาหารที่มีความเข็มข้น ของสารออกฤทธิ์ต่ำด้านบนของขวด และสารอาหาร ที่มีความเข็มข้น ของสารออกฤทธิ์สูง (ส่วนใหญ่จะอยู่ในตะกอน) ด้านล่างของขวดซึ่งทำให้ได้รับสารอาหาร ไม่เท่ากันในแต่ละครั้งซึ่งเป็นข้อเสียของ สารอาหารแบบน้ำ และถ้าดูที่ฉลากจะเห็น คำเตือนอีกอย่าง "แช่เย็นหลังจากเปิดขวด"ในอากาศนั้นๆ เต็มไปด้วยแบคทีเรีย ที่ทำให้อาหารเน่าเสียซึ่งง่ายต่อการปนเปื่นลงในเครื่องดื่ม ทุกครั้งที่เปิดขวด แบคทีเรียสามารถเติบโต ได้อย่างรวดเร็วที่อุณหภูมิห้องเมื่อขวดเครื่องดื่ม ถูกลืมเอาไว้นอกตู้เย็น ดังนั้นสารกันเสีย จึงถูกนำมาใช้ในสารอาหารแบบน้ำปริมาณสูงที่สุดเพื่อป้องกันการเติบโต ของแบคทีเรีย สารอาหารแบบน้ำส่วนใหญ่ จะบรรจุอยู่ในขวดขนาดใหญ่ทำให้ไม่สะดวก ในการพกพา และจำเป็นต้องแช่ตู้เย็นยากที่จะพกพา ไปที่ทำงาน ระหว่างเดินทาง หรือท่องเที่ยว ซึ่งไม่สะดวก และปริมาณสารอาหารที่ได้รับ แต่ละครั้ง ก็ไม่แน่นอนอีกด้วย
4.สารอาหารรูปแบบเจล
สารอาหารในรูปแบบเจลนั้นเป็นรูปแบบใหม่ล่าสุดของโลก เทคโนโลยีของสารอาหาร ในรูปแบบเจลนั้นถูกพัฒนาให้เกิดสภาวะระดับไมโครที่บรรจุสารอาหารเข็มข้นเอาไว้ข้างในโดยสารอาหารรูปแบบเจลนั้นกลืนง่าย และพกพาสะดวก และเป็นการง่ายต่อการดูดซึมเข้าร่างกายที่สุด
สรุปจุดเด่นของอาหารแสริมแบบเจล
หน้าที่เข้าชม | 230,899 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 144,891 ครั้ง |
เปิดร้าน | 12 ส.ค. 2556 |
ร้านค้าอัพเดท | 22 ต.ค. 2568 |