ในปัจจุบันมีผู้ป่วยที่มีภาวะความดันโลหิตสูงร่วมกับเป็นโรคเบาหวานสูงถึง 78.4% แต่ในนั้นมีเพียงแค่ 13.85% ที่สามารถควบคุมความดันโลหิตได้ตามเป้า ซึ่งภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากการไม่สามารถควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ตามเป้ามีหลายโรคได้แก่ โรคไตวายเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมองตีบหรือแตก นอกจากนั้นยังพบว่าผู้ป่วยที่มีภาวะความดันโลหิตสูงร่วมกับโรคเบาหวานจะมีความเสี่ยงจากการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดถึง75% ในขณะที่ผู้ป่วยที่ไม่มีโรคเบาหวานร่วมมีความเสียงเพียง13%

คุณประโยชน์ของหญ้าหวาน

หญ้าหวาน (Stevia) มีชื่อวิทยาศาสตร์คือ Stevia rebaudiana เป็นพืชที่มีคุณสมบัติให้รสหวานที่ไม่ก่อให้เกิดพลังงานและมีการใช้เป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาลมานานากกว่า20ปี ส่วนใบของหญ้าหวานจะมีสารประกอบมากมายที่ให้ความหวานเช่น Stevioside,rebaudioSicdes A- E,dulcosideA และ Steviolbioside โดยสตีวิโอไซด์ (Stevioside) จะเป็นสารประกอบหลักที่พบประมาณร้อยละ 5-10 ของผงแห้งของใบหญ้าหวาน มีรสหวานจัด โดยมีความหวานกว่าน้ำตาลซูโครสถึง 300เท่า

สวนผงแห้งจากใบหญ้าหวานจะมีความหวานมากกว่าน้ำตาลประมาณ 10-15เท่า (หญ้าหวาน1ช้อนชาจะเทียบเท่าน้ำตาลทราย1ถ้วย) โดยสารให้ความหวานที่ได้จากใบหญ้าหวานจะไม่ทำให้เกิดผลต่อเมแทบอลิซึม และน้ำหนักตัวในระยะยาวเหมือนสารให้ความหวานชนิดอื่น

ปัจจุบันมีงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับหญ้าหวานหลายงานวิจัย อาทิเช่น AntonSD และคณะศึกษาผลของสารให้ความหวาน 3 ชนิดได้แก่ หญ้าหวาน แอสปาเทม และซูโครส ต่อระดับน้ำตาลหลังมื้ออาหาร (postprandial sugar) ความอยากอาหาร (Satiety) และการบริโภคอาหาร(food intake)ในอาสาสมัครสุขภาพดี 19 คนและ คนอ้วน12คน

พบว่าหญ้าหวานสามารถลดระดับน้ำตาลหลังมื้ออาหาร และแคลอรีจากการบริโภคอาหารทั้งวันเมื่อเทียบกับซูโครส และสามารถลดระดับอินซูลินหลังมื้ออาหารเมื่อเทียบกับทั้งซูโครสและแอสปาเทม แต่ไม่พบการเปลี่ยนแปลงต่อความอยากอาหารในสารให้ความหวานทั้งสามชนิด

คุณประโยชน์หญ้าหวานนอกจากเป็นสารให้ความหวานแล้ว หญ้าหวานยังมีคุณประโยชน์หลายอย่างโดยมีการศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของหญ้าหวานได้แก่ ฤทธิ์ลดความดันโลหิต ฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือด ฤทธิ์ขับปัสสาวะ ฤทธิ์ต่อต้านการเกิดเนื้องอก (anti-tumor) ฤทธิ์ต้านมะเร็งเป็นต้น

ปัจจุบันมีการศึกษาเกี่ยวกับผลต่อความดันโลหิตของหญ้าหวาน อาทิเช่น Chan และคณะได้ศึกษาถึงประสิทธิภาพในการลดความดันโลหิตและความปลอดภัยของการกินสตีวิโอไชด์(หญ้าหวาน) เทียบกับยาหลอกเป็นเวลาหนึ่งกับผู้ป่วย ที่มีความดันโลหิตที่ระดับอ่อนถึงปานกลาง จำนวน 106 คน พบว่าถ้าให้ผู้ป่วยกินสตีวิโอไซด์ 750 มิลลิกรัมต่อวัน นาน1ปี จะลดทั้งความดันโลหิตขณะหัวใจบีบตัวและหัวใจคลายตัว และจะเริ่มเห็นผลลดความดันโลหิตเมื่อเทียบกับยาหลอกในเดือนที่3 หลังกินสตีวิโอไซด์ อาการไม่พึงประสงค์ มีเพียงคลื่นไส้วิงเวียนและท้องอืด

ในงานวิจัยถัดมา HsiehMH และคณะศึกษาในผู้ป่วยความดันโลหิต สูงจำนวน174คน พบว่าหลังจากให้ผู้ป่วยรับประทานสตีวิโอไซด์ 1,500 มิลลิกรัมต่อวัน เทียบกับยาหลอก2ปีความดันโลหิตขณะหะวใจบีบตัวและ หัวใจคลายตัว ของผู้ป่วยที่รับประทานสตีวิโอไซด์ลดลงโดยความดันโลหิตขณะหัวใจบีบตัวและความดันโลหิตขณะหัวใจคลายตัวลดเมื่อเทียบกับค่าเริ่มต้น

แล้วได้มีงานวิจัยในการศึกษาเกี่ยวกับฤทธิ์ขับปัสสาวะของหญ้าหวาน มีการศึกษาของMelisMS ที่ศึกษาในหนูทดลองที่พบว่าการให้น้ำหญาหวาน(ใบหญ้าหวาน66.7กรัมต่อน้ำ100มิลลิลิตร)ให้ครั้งละ2มิลลิลิตรวันละ2ครั้ง เป็นเวลานาน40และ60วัน จะมีผลทำให้เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงไตมากขึ้นเป็นผลให้ลดความดันเลือดขับน้ำและเกลือโซเดียมเพิ่มขึ้น

และมีงานวิจัยจาก คณะเภสัชศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ศึกษาฤทธิ์ขับปัสสาวะของชากระเจี๊ยบและหญ้าหวานในผู้ป่วยเบาหวานที่มี ภาวะความดันโลหิตสูง โดยศึกษาจากผู้ป่วยจำนวน 22 คน พบว่าเมื่อเปรียบเทียบผลของผู้ป่วยที่ได้รับชากระเจี๊ยบหญ้าหวานและได้รับยาไฮโดรคลอโรไทอะไซด์ (HCTZ) ลดปริมาณโซเดียมที่ขับออกทางปัสสาวะอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ ส่วนค่าความดันโลหิตเฉลี่ยทั่งขณะหัวใจบีบตัวและคลายตัวหลังได้รับชากระเจี๊ยบหญ้าหวานและได้รับยา HCTZ ลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อเทียบกับค่าเริ่มต้น และมีความดันโลหิตลดลง สรุปก็คือชากระเจี๊ยบหญ้าหวานสามารถลดความดันโลหิตในผู้ป่วยเบาหวานได้

 
 

แหล่งอ้างอิง

Chatsudthipong,V. and Muanprasat,C. Stevioside  and related compounds: Therapeutic benefits beyond Sweetness. Pharmacol Ther 121 (2009):41-54.

Anton, S.D., et al. Effects of Stevia, aspartame, and sucrose on food intake, Satiety, and postprandial glucose and insulin levels. Appetite 55(2010):37-43.

Schulze, M.B., et al. Sugar-Sweetened beverages, weight gain, and incidence of type2 diabetes in young and middle-aged women. JAMA 292 (2004):927-34.

Melis,M.S. Chronic administration of aqueous extract of Stevia rebaudiana in rats: renal effects.  J Ethnopharmacol 47(1995):129 -34.84 .

Melis,M.S. Effect of crude extract of Stevia rebaudiana on renal water and electrolytes excretion. Phytomedicine 6(1999): 247-50.

Chan, P.,et al. A double-blind placebo-controlled study of the effectiveness and tolerability of oral stevioside in human hypertension.  Br J Clin Pharmacol 50 (2000):215-20.

Singh, S.and Rao, G.Stewa: The herbal Sugar of 21st Century Sugar Tech 7(2005):17-24

Ferri, LA.E etal. Investlgat10n ofthe-ant1hypertenS1VeeflectOf Oral Crude Stev10S1dempat1entSW1thm1ldeSSent1alhypertenson. PhytOther ReS 20 (2006): 732-6.

สมพรภูติยานันต์เภสัชวัตถุสมนไพรรสหวานในเสมพรภูติยานันต,บร รถาธิการความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการแพทย์แผนไทยว่าด้วยสมนไพรกับ การแพทย์แผนไทย.หน้ำ 228-35.เชียงใหมโรงพิมพ์ตุลย์การพิมพ์, 2546

Roberts,”. and Daneshmend,TK ASSessment ofnatr1uret1c drugs. BrICinPharmaCO12 (1981):465-74.